ดาวโจนส์ปิดบวก 70.04 จุด ตอบรับอังกฤษ-สหภาพยุโรปบรรลุดีลกิจการค้า , รับแรงหนุนความคาดหวังเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในสหรัฐ
วันนี้ (25 ธันวาคม 63) ดรรชนีดาวโจนส์ตลาดค้าหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืน (24 ธันวาคม) ตอบรับข่าวสารอังกฤษแล้วก็สหภาพยุโรป (EU) บรรลุกติกากิจการค้าซึ่งจะมีการบังคับใช้ภายหลังจากอังกฤษแยกตัวจาก EU (Brexit) ในตอนปลายปีนี้ นอกเหนือจากนั้น ตลาดยังได้แรงหนุนจากความคาดหมายเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในสหรัฐ และรายงานที่ว่าในช่วงเวลานี้ราษฎรกว่า 1 ล้านคนภายในสหรัฐได้รับการฉีดยาต้านทานเชื้อไวรัสวัววิด-19 แล้ว
ดรรชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,199.87 จุด มากขึ้น 70.04 จุด หรือ +0.23% ในเวลาที่ดรรชนี S&P500 ปิดที่ 3,703.06 จุด มากขึ้น 13.05 จุด หรือ +0.35% ส่วนดรรชนี Nasdaq ปิดที่ 12,804.73 จุด มากขึ้น 33.62 จุด หรือ +0.26%
อังกฤษแล้วก็ EU สามารถบรรลุกติกาการค้าขายระหว่างกันเมื่อคืนตามเวลาของไทย ภายหลังที่ทั้งสองฝ่ายได้พูดจาด้วยกันเป็นระยะเวลาที่ยาวนานนับเป็นเวลาหลายเดือน โดยนางเอ้อร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) บอกว่า กติกาการค้าขายดังที่กล่าวมาข้างต้นมีความสมดุลรวมทั้งเป็นกลาง
ข่าวสารการบรรลุกติกากิจการค้าระหว่างอังกฤษแล้วก็ EU เป็นต้นสายปลายเหตุหนุนตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กปิดในดินแดนบวก ภายหลังที่ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมานักลงทุนต่างพากันไม่สบายใจว่า ถ้าเกิดอังกฤษและก็ EU ไม่อาจจะบรรลุกติกาการค้าขายได้ก่อนวันที่ 1 มกราคม2564 ก็จะมีผลให้อังกฤษปลีกตัวจาก EU โดยไม่มีการทำข้อตกลง (no-deal Brexit) ทำให้อังกฤษสูญเสียสิทธิพิเศษทางด้านการค้ากับ EU แล้วก็ทำให้ทั้งสองฝ่ายจำเป็นต้องปฏิบัติงานค้าภายใต้กฎระเบียบของหน่วยงานการค้าขายโลก (WTO) นอกจากนั้น สภาวะ no-deal Brexit จะทำให้เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจอังกฤษรวมทั้งยุโรป
ตลาดยังได้รับต้นเหตุหนุนจากรายงานของศูนย์ควบคุมแล้วก็คุ้มครองป้องกันโรคที่สหรัฐ (CDC) ซึ่งบอกว่า สามัญชนในสหรัฐกว่า 1 ล้านคนได้รับการฉีดยาต่อต้านเชื้อไวรัสวัววิด-19 แล้ว แล้วก็ในตอนไม่กี่วันที่เหลือก่อนปลายปีนี้ สหรัฐมีแผนสำหรับการที่จะฉีดยาให้พสกนิกรกว่า 2 ล้านคน/วัน เพื่อสำเร็จตามเป้าหมายการฉีดยาให้กับราษฎรปริมาณ 20 ล้านคนในปลายปีนี้
นอกเหนือจากนี้ นักลงทุนยังคงมีหวังว่า สหรัฐจะสามารถออกมาตรกาเกลื่อนกลาดระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อแก้ไขผลพวงจากการวัววิด-19 ได้ท้ายที่สุด หากแม้ผู้นำโดนัลด์ ทรัมป์ ข่มขู่ว่าจะไม่เซ็นชื่อในมาตรการดังที่ได้กล่าวมาแล้ว โดยอ้างถึงว่าอยากให้เพิ่มเงินในเช็คเงินสดที่จะจ่ายแจกให้กับคนอเมริกันจาก 600 ดอลลาร์ เป็น 2,000 ดอลลาร์ แล้วก็อยากให้ตัดงบรายการจ่ายที่ไม่สำคัญ
หุ้น 10 ใน 11 กรุ๊ปที่คำนวณในดรรชนี S&P500 ปรับพฤติกรรมขึ้น นำโดยหุ้นกรุ๊ปอสังหาริมทรัพย์ที่พุ่งขึ้นเข้มแข็งสุด ในช่วงเวลาที่หุ้นกรุ๊ปพลังงานเป็นหุ้นกรุ๊ปเดียวที่ปิดในดินแดนลบเมื่อคืน
หุ้นอาลีบาบา กลุ่ม ซึ่งลงบัญชีในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ปิดหล่นลง 13.34% ข้างหลังมีแถลงการณ์ว่ารัฐบาลจีนเริ่มสอบปากคำบริษัทอาลีบาบาในข้อกล่าวหาผูกขาดตลาด
หุ้นโมเดอร์ท้องนา ตกลง 5.33% ถึงแม้โมเดอร์ท้องนาได้ออกมาแสดงความมั่นใจและความเชื่อมั่นว่า วัคซีนต่อต้านเชื้อไวรัสวัววิด-19 ของบริษัทจะสามารถปกป้องเชื้อไวรัสวัววิด-19 กลายพันธุ์ในอังกฤษได้ก็ตาม
ติดตามข่าวสารตรงนี้